5 สัญญาณเตือนว่าบ้านของคุณอาจกำลังทรุด

พาไปดูกันว่ามีสัญญาณเตือน อะไรบบ้าง

 บ้านทรุด ซึ่งอาจเกิดขึ้นอย่างช้า ๆ โดยไม่มีเสียงเตือน แต่ส่งผลเสียร้ายแรงในระยะยาว โดยเฉพาะหากปล่อยไว้นาน อาจกระทบต่อโครงสร้าง ความปลอดภัย และมูลค่าทรัพย์สิน วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 5 สัญญาณเตือนว่าบ้านของคุณอาจกำลังทรุด พร้อมแนวทางรับมืออย่างเหมาะสม

สัญญาณเตือนว่าบ้านกำลังทรุด

  1. พื้นบ้านมีรอยแยก หรือทรุดตัวเป็นแอ่ง หนึ่งในสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดของบ้านทรุดคือ พื้นบ้านมีการยุบตัวไม่สม่ำเสมอ เช่น พื้นกระเบื้องปูแล้วมีรอยร้าว เสียรูป หรือทรุดต่ำเป็นจุด ๆ เมื่อเดินแล้วรู้สึกเอียงหรือยวบยาบ โดยเฉพาะในบริเวณห้องน้ำ ห้องครัว และโถงทางเดิน ซึ่งมีการใช้ประจำ สาเหตุที่พบบ่อย มักเกิดจาก
  • ดินใต้ฐานรากอ่อน หรือเปลี่ยนสภาพจากการดูดซึมน้ำ
  • งานก่อสร้างฐานรากไม่ได้มาตรฐาน

      2. ผนังหรือเพดานแตกร้าวเป็นแนวเฉียง รอยร้าวตามผนังหรือเพดานที่เกิดเป็นแนวเฉียง หรือร้าวต่อเนื่องจากวงกบประตูหน้าต่างนั้น เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าโครงสร้างของ บ้านกำลังเปลี่ยนระดับ ซึ่งอาจเกิดจากฐานรากที่ไม่มั่นคง มีรอยร้าวจากมุมบนของประตู             หรือหน้าต่างเฉียงขึ้นไป เพดานแยกออกจากผนัง หรือรอยร้าวตามแนวเสา โดยหากรอยร้าวลึกจนเห็นวัสดุภายใน หรือลากยาวต่อเนื่อง ควรปรึกษาวิศวกรทันที

      3. ประตูหรือหน้าต่างปิดไม่สนิท เมื่อประตู หน้าต่าง เริ่มเปิดปิดฝืดหรือเบี้ยวผิดรูป นั่นอาจเป็นเพราะโครงสร้างบ้านบิดตัวหรือเอียงจากการทรุด การเปลี่ยนแปลงของแนวฐานทำให้กรอบหน้าต่างและประตูผิดตำแหน่งไปจากเดิม เช่น

  • ต้องใช้แรงมากขึ้นในการเปิด/ปิด
  • ขอบประตู/หน้าต่างเบี้ยว หรือชนกรอบอย่างไม่ปกติ

     4. ท่อน้ำ ท่อระบายน้ำ แตกหรือรั่ว บ้านที่ทรุดอาจทำให้ท่อประปาใต้ดินหรือตามผนังเกิดการเคลื่อนตัว จนเกิดการรั่ว แตก หรือหลุดจากข้อต่อ ส่งผลให้ระบบประปาเสียหาย  และนำไปสู่ความชื้นสะสมภายในบ้านจนนทำให้เกิดเชื้อรา และกลิ่นอับ

  1. รั้วหรือกำแพงรอบบ้านเริ่มเอียงหรือแยกตัว

        แม้ว่ารั้วจะไม่ใช่โครงสร้างหลักของบ้าน แต่รั้วที่เอียงหรือมีรอยร้าวอย่างเห็นได้ชัด อาจบ่งบอกว่าพื้นดินรอบบ้านกำลังเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการถมดินใหม่โดยสัญญาณอันตรายที่พบได้คือ

  • รั้วมีการเอียงไปด้านหนึ่งชัดเจน
  • มีการแยกตัวออกจากพื้นบ้าน

พื้นที่เสี่ยงที่มักพบปัญหาบ้านทรุดบ่อย

บ้านทรุด

บ้านที่ปลูกสร้างในพื้นที่เหล่านี้ควรเฝ้าระวังเป็นพิเศษ

  • พื้นที่ดินอ่อน เช่น กรุงเทพฯ เมืองนนท์ สมุทรปราการ ปทุมธานี
  • พื้นที่ที่เคยเป็นแหล่งน้ำ หรือบ่อดินถม
  • พื้นที่ที่มีการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ใกล้เคียง
  • เขตน้ำท่วมถึงอยู่บ่อยครั้ง
  • บริเวณริมแม่น้ำ หรือพื้นที่ลาดเอียง

อันตรายจากบ้านทรุด หากปล่อยไว้ไม่รีบแก้ไข

การละเลยปัญหาบ้านทรุดอาจส่งผลเสียในระยะยาวทั้งด้านโครงสร้าง ความปลอดภัย และการอยู่อาศัย เช่น

  • บ้านพังบางส่วน เสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สิน
  • ค่าสร้างซ่อมสูงขึ้นเรื่อย ๆ หากปล่อยให้อาการลุกลาม
  • มูลค่าบ้านลดลงอย่างมาก หากต้องขายต่อ
  • ส่งผลต่อสุขภาพผู้อยู่อาศัย เช่น เชื้อรา ความชื้น และฝุ่นละอองจากรอยแตกร้าว

แนวทางแก้ไขและป้องกันปัญหาบ้านทรุด

  1. ตรวจสอบโครงสร้างโดยวิศวกร หากพบสัญญาณต้องสงสัย ควรให้ผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสอบทันที
  2. เสริมฐานรากด้วยเข็มเหล็กหรือไมโครไพล์ เป็นวิธีแก้ปัญหาการทรุดในระยะยาว โดยไม่ต้องทุบบ้านทิ้ง
  3. อัดน้ำปูนใต้ฐานราก (Grouting) เพื่อเพิ่มความมั่นคงของดินบริเวณฐานราก
  4. ควบคุมการถมดินและระบายน้ำอย่างถูกวิธี ป้องกันการเปลี่ยนแปลงของดินในอนาคต
  5. หมั่นสังเกตและบำรุงรักษาบ้านสม่ำเสมอ เช่น ตรวจรอยร้าว เปลี่ยนวัสดุกันน้ำ และล้างรางระบายน้ำ

พบสัญญาณเตือนบ้านทรุดอย่าปล่อยไว้

ปัญหาบ้านทรุดไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะมันอาจส่งผลถึงความปลอดภัยของคนในบ้านได้โดยตรง การรู้เท่าทันสัญญาณเตือนและหมั่นตรวจสอบบ้านอยู่เสมอคือกุญแจสำคัญในการป้องกันไม่ให้บ้านเสียหายร้ายแรง หากพบความผิดปกติที่กล่าวมาข้างต้น ควรรีบปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทันที เพื่อประเมินสถานการณ์และซ่อมแซมได้ตรงจุดก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป ถ้าคุณกำลังประสบปัญหาเกี่ยวกับบ้านทรุด หรือกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้าง ทีมช่างมืออาชีพพร้อมให้คำปรึกษา ติดต่อเราได้เลย